วันเสาร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

About me .

• ชื่อ ณัฐชยา บำรุงวงษ์
• ชื่อเล่น อีฟ
• อายุ 19 จะ 20 ค่ะ
• เกิดวันที่ 30 มิถุนายน 2534
• มีน้อง 1 คนค่ะเป็นผู้ชาย ชื่อเอิร์ท
• ตอนนี้เรียนอยู่ปี 1
• มหาลัยราชภัฎสวนดุสิต
• คณะ นิเทศศาสตร์ ที่เลือกเรียนเพราะสนใจด้านดีค่ะ หัวเราน่าจะไปทางด้านนี้(มั้ง)
• เวลาว่างชอบอ่านหนังสือ เล่นเกมส์ อะไรที่ทำให้สบายใจก็จะทำค่ะ
• รักอิสระ รักสนุก ไม่ชอบยึดติดกับอะไรนานๆ อยู่ไม่นิ่ง พูดเยอะ พูดมาก
• ชอบเขียนอะไรเรื่อยเปื่อย เป็นตัวของตัวเอง
•ไม่แคร์คนที่ไม่แคร์เรา แต่จะแคร์คนที่แคร์เรามาก
• ภายนอกอาจจะห้าวๆ แต่ลึกๆแล้ว เป็นคนคิดมากค่ะ ^^"
• ชอบสีชมพู (ขัดกับหน้าตาและบุคลิกมาก)
• ไม่ชอบการผิดสัญญา และการรอคอย
• สถานที่ที่ชอบไป คงเป็นบ้านตัวเอง เพราะที่อื่นเราไม่สามารถทำอะไรก็ได้
   เหมือนอยู่บ้านตัวเอง บ้านเราเองน่าอยู่ที่สุดแล้ว
• ปัจจุบัน ตั้งหน้าตั้งตาเรียน อาจหาความสุขใส่ตัวบ้างเล็กหน่อย
• สิ่งที่ต้องทำทุกวัน บอกกับตัวเองให้รู้ว่าตอนนี้เราควรทำอะไร ยังไง
• คิดเองและก็ต้องคิดให้ได้ค่ะ ! รู้ว่าตอนนี้เรามีหน้าที่อะไร

วันอังคารที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

room 39

Room39

ทอม อิศรา , มน ชุติมน วิจิตรทฤษฎี , แว่นใหญ่ โอฬาร ชูใจ


.......................................................................................

ผลงานของพวกเค้าน้า





.............................
เป็นกำลังใจให้กับคนไทยที่มีความสามารถขนาดนี้^^

ข้อดีของผัก ผัก และก็ ผัก

อ่าวันนี้ไปหาหมอมา หมอบออกว่าท้องผูกต้องกินผักเยอะ หมอพูดว่า"อายุเพิ่ง 18 ท้องผูกแบบนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆแล้วนะค่ะหนู"  ฮือ ฮือ ก็หนูเกลียดการกินผักมันผิดไหม
แม่เลยปปริ้นกระดาษคุณปประโยชน์ของผักมาแปะไว้ที่ประตูห้อง  พระเจ้าเถอะ แม่คิดว่ามันจะทำให้หนูกินได้เยอะขึ้นจริงเหรอ !!!

1 สะเดา (Neem tree) มีเบต้าแคโรทีนสูง บำรุงสายตา เสริมระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้นอนหลับ
2
ผักกาดขาว (Chinese white cabbage) ช่วยระบบย่อยอาหาร ขับปัสสาวะ แก้ไอ มีโฟเลทสูง บำรุงคุณแม่ตั้งครรภ์
3
ต้นหอม (Shallot) มีน้ำมันหอมระเหย บรรเทาอาการหวัด มีสารฟลาโวนอยด์ต้านมะเร็ง
4
แครอท (Carrot) เบต้าแคโรทีนป้องกันโรคมะเร็ง มีแคลเซียม แพคเตท ลดระดับ คลอเลสเตอรอลได้
5
หอมหัวใหญ่ (Onion) มีสารฟลาโวนอยด์ ช่วยลดอาการของโรคหัวใจ ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
6
คะน้า (Chinese kale) มีแคลเซียมและสารต้านอนุมูลอิสระสูง ป้องกันโรคกระดูกพรุน และมะเร็ง 
7 ผักกระเฉด(Water mimosa) ดับพิษไข้ กากใยช่วยระบบขับของเสีย เพิ่มการเผาผลาญสารอาหาร 
8
ตำลึง (Ivy gourd) มีวิตามินเอสูง ดีต่อดวงตา เส้นใยจับไนเตรต ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งในกระเพาะอาหาร 
9
ผักบุ้ง (Water spinach) บรรเทาอาการร้อนใน มีวิตามินเอบำรุงสายตา ธาตุเหล็กบำรุงเลือด 
10
ขึ้นฉ่าย (Celery) กลิ่นหอม ช่วยเจริญอาหาร มีวิตามินเอ บี และซี บำรุงสมอง ป้องกันโรคหัวใจขาดเลือด
11
เห็ด (Mushroom) แคลอรีน้อย ไขมันต่ำ มีวิตามินดีสูง ช่วยในการดูดซึมแคลเซียม เสริมกระดูกและฟัน
12
บัวบก (Indian pennywort) มีวิตามินบีสูง ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย บำรุงสมองและความจำ บำรุงผิวพรรณ ลดอาการอักเสบ

13 สะระแหน่ (Kitchen mint) กลิ่นหอมเย็นของใบให้ความสดชื่น ทำให้ความคิดแจ่มใส แก้ปวดหัว 14กระเทียม (Garlic) ลดไขมันในเลือด ป้องกันหัวใจขาดเลือด ใบกระเทียมมีโฟเลท เหล็ก วิตามินซีสูง
15 ข่า (Galangal) น้ำมันหอมระเหย ช่วยระบบย่อยอาหารขับลม มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อรา

...............................................................................................
 

 

มีตั้ง 15 อย่าง กินได้ยังไม่ถึง 2 อย่างเลย T.T

ประวัติวันวาเลนไทน์

เมื่อเข้าสู่เดดือนแห่งความรักนั้น มองไปทางไหนก็เป็นสีชมพูไปหมดใช่มั้ยล่ะ เจอแต่คู่รักกันทั้งนั้น14 กุมภา วาเลนไทน์ ของทุกปีก็เป็นวันที่หลายคนรอคอย หรือเป็นวันที่มีความหมายวันหนึ่งสำหรับคู่รักทั่วโลก ประวัติวันวาเลนไทน์ วันวาเลนไทน์ มีประวัติอย่างไร มาดูกัน
วันนักบุญวาเลนไทน์ (Saint Valentine's Day) หรือที่เป็นที่รู้จักว่า วันวาเลนไทน์ (Valentine's Day) ตรงกับวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ของทุกปี เป็นวันประเพณีที่คู่รักบอกให้กันและกันทราบเกี่ยวกับความรักของพวกเขา โดยการส่งการ์ดวาเลนไทน์ ซึ่งโดยมากจะไม่ระบุชื่อ วันนี้เริ่มเกี่ยวข้องกับความรักแบบชู้สาวในช่วงยุค High Middle Ages เรื่องของ วันวาเลนไทน์ นี้ มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 3 ณ กรุงโรม หรืออาณาจักรโรมัน ในยุคของจักรพรรดิคลอดิอุสที่สอง (Claudius II) โดยที่จักรพรรดิพระองค์นี้ มีนิสัยชอบกดขี่ข่มเหงผู้อื่น เขาได้สั่งให้ชาวโรมันทุกคน สักการะนับถือพระเจ้า 12 องค์ โดยผู้ที่ขัดขืนคำสั่งจะถูกทำโทษ รวมทั้งห้ามยุ่งเกี่ยวกับพวกคริสเตียนด้วย แต่นักบุณวาเลนตินุส (Valentinus) - valentine มีความเลื่อมใส ศรัทธาต่อพระคริสมาก เขาได้กล่าวไว้ว่า แม้กระทั่งความตายก็ไม่สามารถ เปลี่ยนความคิดของเขาได้ เขาจึงได้ถูกขังคุก ช่วงอาทิตย์สุดท้ายในชีวิตของเขานั้น ได้มีสิ่งแปลกประหลาดเกิดขึ้น ขณะที่เขาถูกคุมขังอยู่นั้น ผู้คุมขังได้ขอให้วาเลนตินุส สอนลูกสาวเขาซึ่งตาบอดด้วย จูเลียเป็นคนสวยแต่น่าเสียดายที่เธอตาบอดตั้งแต่แรกเกิด วาเลนตินุสได้เล่าเรื่องประวัติศาสตร์ต่าง ๆ สอนเลข และเล่าเรื่องพระเจ้าให้เธอฟัง จูเลีย สามารถรับรู้สิ่งต่าง ๆ ในโลกนี้ได้ โดยคำบอกเล่าของ วาเลนตินุส เธอเชื่อใจเขาและเธอมีความสุขมากเมื่ออยู่กับเขา
วันหนึ่งจูเลียถามวาเลนตินุสว่า ถ้าเราอธิษฐาน พระผู้เป็นเจ้าจะได้ยินเราไหมเขาตอบ พระองค์เจ้า จะได้ยินเราแน่นอน ท่านได้ยินเราทุกคนจูเลียกล่าว ท่านทราบหรือไม่ว่า ข้าอธิษฐานขออะไรทุก ๆ เช้า ทุก ๆ เย็น....ข้าหวังว่า ข้าจะได้มองเห็นโลก เห็น ทุก ๆ อย่างที่ท่านเล่าให้ข้าฟังวาเลนตินุสจึงบอกพระเจ้ามอบแต่สิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ทุกคน เพียงแค่เรามีความเชื่อมั่นในพระองค์ท่าน เท่านั้นเอง
จูเลีย ผู้ซึ่งมีความเชื่อมั่นในพระผู้เป็นเจ้า จึงได้คุกเข่า กุมมือ อธิษฐานพร้อมกับวาเลนตินุส และในขณะนั้นเอง ก็ได้มีแสงสว่างลอดเข้ามาในคุก และสิ่งมหัศจรรย์ก็ได้เกิดขึ้น จูเลียค่อย ๆ ลืมตา พระเจ้า.....เธอมองเห็นแล้ว!!!!! เขาและเธอจึงกล่าวขอบคุณต่อพระเจ้า และเรื่องมหัศจรรย์เรื่องนี้ ได้แพร่หลายไปทั่วราชอาณาจักร  ในคืนก่อนที่วาเลนตินุสจะสิ้นชีวิต โดยการถูกตัดศีรษะ  เขาได้ส่งจดหมายฉบับสุดท้ายถึงจูเลีย โดยลงท้ายว่า - From Your Valentine - เข้าสิ้นชีพในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 270 หลังจากนั้น ศพของเขาได้ถูกเก็บไว้ที่โบสถ์พราซีเดส (Praxedes) ณ กรุงโรม จูเลียได้ปลูกต้นอามันต์ หรืออัลมอลต์สีชมพู ไว้ใกล้หลุมศพของวาเลนตินุส แต่ผู้เป็นที่รักของเธอ โดยในทุกวันนี้ ต้นอามันต์สีชมพูได้เป็นตัวแทนแห่งรักนิรันดร์และมิตรภาพอันสวยงาม
ประวัติ วันวาเลนไทน์ นี้เป็นเรื่องเล่าต่อๆกันมาจนถึงปัจจุบัน  เท่าที่ค้นหามาได้นี้เป็นเพียงหนึ่งในหลาย ๆ เรื่องเท่านั้น ไม่ว่าประวัติที่แท้จริงจะเป็นอย่างไรก็ตาม แต่ในปัจจุบันนี้ เราได้ถือว่า วันวาเลนไทน์ เป็นวันสำคัญวันหนึ่งในประวัติศาสตร์เลยทีเดียว คุณสามารถส่งดอกไม้ ขนมและการ์ด เพื่อบอกความนัยในแก่คนที่พิเศษของคุณ วาเลนไทน์ นี้จะเป็นวันที่เราส่งความรู้สึกดี ๆ ให้แก่กัน สำหรับคู่รักทั่วโลก


ไหว้พระ 9 วัด


ไหว้พระ 9 วัด
เป็นคำเรียกการตระเวนไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในวัดและศาลเจ้าที่มีชื่อเสียง 9 แห่งในกรุงเทพมหานคร ขณะนี้กำลังเป็นที่นิยมเพราะเชื่อว่าจะเกิดสิริมงคลตามชื่อของสถานที่ โดยสถานที่
-วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร (วัดกัลยา, วัดซำปอกง) เชื่อว่าจะทำให้ "เดินทางปลอดภัยดี มีมิตรไมตรี"
-วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร (วัดชนะสงคราม) เชื่อว่าจะทำให้ "มีชัยชนะต่ออุปสรรคทั้งปวง"
-วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์) เชื่อว่าจะทำให้ "ร่มเย็นเป็นสุขดุจอยู่ใต้ร่มโพธิ์"
-วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) เชื่อว่าจะทำให้ "แก้วแหวนเงินทองไหลมาเทมา"
-วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร (วัดระฆัง) เชื่อว่าจะทำให้ "ชื่อเสียงโด่งดังดุจเสียงระฆัง"
-วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร (วัดสุทัศน์) เชื่อว่าจะทำให้ "มีวิสัยทัศน์กว้างไกล
มีเสน่ห์แก่บุคคลทั่วไป"
-วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร (วัดแจ้ง) เชื่อว่าจะดลให้ "ชีวิตรุ่งโรจน์ทุกคืนวัน"
-ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร เชื่อว่าจะเป็น "หลักชัยชีวิตใหม่" (ตัดเคราะห์ ต่อชะตา เสริมวาสนา บารมี)
-ศาลเจ้าพ่อเสือ เชื่อว่าจะ "เสริมอำนาจบารมี"
อนึ่ง บางตำราจะให้ไปไหว้วัดราชนัดดารามวรวิหาร (วัดราชนัดดา) แทนศาลเจ้าพ่อเสือ ด้วยเหตุที่วัดราชนัดดาเป็น "โลหะปราสาทหนึ่งเดียวในสยาม"

เขาดิน

ไปเที่ยวเขาดดินกันเถอะ

ประวัติความเป็นมา
สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่
5 ภายในบริเวณพระราชวังดุสิต เป็นสวนพฤกษชาติส่วนพระองค์ ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 8 ได้ทรงให้ทางเทศบาลกรุงเทพฯ จัดสร้างให้เป็นสวนสัตว์และสถานที่พักผ่อนหย่อนใจสำหรับประชาชนทุกระดับชั้น และมีการปรับปรุงพัฒนาอยู่เรื่อย ๆ ตลอดมา
เขาดินเป็นสวนสัตว์ใหญ่ใจกลางกรุงเทพฯ มีพื้นที่ 118 ไร่ มีสัตว์ป่าราว ๆ 2,000 ตัว ทั้งที่หายากและเกือบจะสูญพันธุ์แล้ว มีต้นไม้นานาชนิดที่ให้ความร่มรื่นและบึงน้ำขนาดใหญ่ที่สวยงาม เหมาะเป็นที่ศึกษาเรียนรู้ชีวิตสัตว์สำหรับนักเรียน นักศึกษา และเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจสำหรับครอบครัว นักท่องเที่ยว และประชาชนทั่วไป
ไปเที่ยวเขาดิน
สวนสัตว์เขาดินตั้งอยู่บนถนนราชวิถีกับถนนพระราม
5 และถนนอู่ทองใน ใกล้กับพระที่นั่งอนันตสมาคม ประตูทางเข้ามี 4 ทาง จะเข้าจากทางถนนไหนก็ได้ ถ้าเอารถไป มีที่จอดด้านถนนราชวิถี เลยประตูทางเข้า บริเวณฟุตบาทจะทำเป็นช่องเว้าให้รถจอดได้ราว ๆ 20 คัน หรือเลี้ยวเข้าถนนอู่ทองใน ก็สามารถขับขึ้นไปจอดบนฟุตบาทบริเวณด้านหน้าทางเข้าอาคารจอดรถได้ 2 ที่นี้ไม่เสียค่าจอด หรือถ้าต้องการที่จอดในร่มให้เข้าทางถนนอู่ทองใน จะเข้าอาคารที่จอดรถพอดี ค่าจอดรถยนต์ 50 บาท อย่าว่าแพงเลย คิดว่าช่วยบำรุงสวนสัตว์ ซื้ออาหารเลี้ยงสัตว์ก็แล้วกันนะ..


แล้วเที่ยวกันให้สนุกนะค่ะ

วันพฤหัสบดีที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2553

Paper Craft

อัพๆๆได้เวลาอัพแล้ว
วันนี้เริ่มด้วยการสอนทำโมเดลกระดาษ
จริงอุปกรณ์ในการทำโมเดลกระดาษก็ไม่ได้มีอะไรมากมายเลยค่ะ และทุกอย่างก็หาง่าย


 1. กระดาษ
กระดาษที่เรานำมาใช้ในการ Print โมเดลออกมานั้น เราจะใช้กระดาษอะไรก็ได้ค่ะ ที่พอจะสะดวกหามาได้ แต่แนะนำว่าควรจะเป็นกระดาษขาว ขนาด A4 กำลังเหมาะ ถ้าเพื่อน ๆ ต้องการโมเดลที่มีความแข็งแรงสักหน่อย แนะนำว่าความหนาของกระดาษที่ดีที่สุดคือ หนาประมาณ 180 - 200 ปอนด์ ค่ะ ถ้าหนาเกินไป จะทำให้เราทำงานได้ลำบากขึ้น และงานออกมาก็จะไม่สวยงาม ถ้าหากบางกว่านี้ ก็พอใช้ได้ค่ะ แต่เราก็จะได้งานที่อาจจะบอบบางสักหน่อยนะคะ และถ้าใครอยากทำผลงานชิ้นเอกให้โดดเด่น หรูหรา แนะนำให้ใช้กระดาษโฟโตเลยค่ะ สีสันจะสวยงาม คมชัด ความหนากำลังดี
2. มีดคัดเตอร์คม ๆ และกรรไกรควรเป็นมีดคัดเตอร์ที่มีปลายแหลม และคม คือกรีดครั้งเดียวสามารถตัดให้ส่วนที่ต้องการขาดได้เลย ไม่ต้องซ้ำ จะทำให้งานเราดูเรียบร้อยยิ่งขึ้นค่ะ เวลาพับกระดาษ ควรใช้คัดเตอร์กรีดเบา ๆ ตามแนวพับ(อย่าให้ขาด) จะช่วยให้พับได้ง่าย และเรียบร้อยยิ่งขึ้น
3. ไม้บรรทัดเอาไว้เวลากรีดกระดาษค่ะ จะได้เรียบร้อย ไม้บรรทัดนี้เราจะเอาแบบไหนก็ได้ แต่ถ้าจะให้ใช้ง่าย ควรจะเป็นไม้บรรทัดใส ๆ นะคะ เราจะได้เห็นเส้น และขอบเขตที่ชัดเจน
4. กาว
กาวอะไรก็ได้ที่เหนียว ๆ แบบติดครั้งเดียวอยู่เลย ไม่ต้องคอยจับเอาไว้นาน ๆ กาวที่แนะนำคือกาวราเท็กยี่ห้อ TOA จะเหนียวดีมากค่ะ
 5. อื่น ๆ
เราอาจจะมีแผ่นรองกรีด ดินสอ ปากกา หรือสิ่งอำนวยความสะดวกในการทำงานตามแต่เห็นสมควรค่ะ


เราจะยกตัวอย่างโมเดลคุณแพนด้าน้อย


ขั้นที่1 คือเตรียมอุปกรณ์และกระดาษที่ปริ้นแล้วมาให้พร้อม


ขั้นที่ 2 ตัดตามแบบโมเดล จะให้กรรไกรหรือคัดเตอร์ตามสะดวกนะค่ะ


ขั้นที่ 3 นำส่วนที่ตัดแล้วมาติดกาวดังรูปข้างต้น


สุดท้ายก้จะได้น้องแพนด้าน้อยแล้วค่า

>>ลองหาแบบโมเดลน่ารักๆได้ที่เว็บของแคนนอนก็ได้นะค่ะ<<

ขอให้สนุกกับการต่อโมเดลกรดาษนะค่ะ^^